Site Overlay

สถานที่ต้องมนต์ขลัง ในประเทศอินเดีย

วันนี้แอดมินก็จะพาทุกท่านมาเที่ยวชม สถานที่ต้องมนต์ขลัง ในประเทศอินเดีย หากจะกล่าวถึงสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญในประเทศอินเดีย คนส่วนใหญ่มักจะนึกถึงทัชมาฮาล มหาอนุสรณ์สถานแห่งความรัก และสถาปัตยกรรมเหนือกาลเวลา แต่จะมีสักกี่คนที่รู้จักเมืองฮัมปิ เมืองที่ลูกเคยรุ่งเรืองเมื่อครั้งอดีต วันนี้แอดมินก็จะพาทุกคนมาทำความรู้จักกับเมืองฮัมปิไปพร้อมกันค่ะ แต่ก่อนที่จะไป แอดมินก็ต้องขอฝากไปติดตาม Lotus Mahal กันด้วยนะคะ แล้วในวันนี้ แอดมินก็ต้อง ขอขอบคุณ marine88  ที่สนับสนุนบทความของเราในวันนี้ด้วยค่ะ

✈ ✈ ✈ ✈ ✈ ✈ ✈ ✈ ✈ ✈ ✈ ✈ ✈ ✈ ✈ ✈ ✈ ✈ ✈ ✈ ✈ ✈ ✈ ✈ ✈ ✈✈ ✈✈ ✈ ✈ ✈✈ ✈✈

สถานที่ต้องมนต์ขลัง ในประเทศอินเดีย

✈ ✈ ✈ ✈ ✈ ✈ ✈ ✈ ✈ ✈ ✈ ✈ ✈ ✈ ✈ ✈ ✈ ✈ ✈ ✈ ✈ ✈ ✈ ✈ ✈ ✈✈ ✈✈ ✈ ✈ ✈✈ ✈✈

สถานที่แรกที่แอดมินจะพาทุกท่านมาทำความรู้จักเลยก็คือ Virupaksha Temple หรือ วัดวิรูปักษา สถานที่ศักดิ์สิทธิ์และสำคัญที่สุดแห่งจักรวรรดิวิชัยนคร ในอดีตสร้างขึ้นเพื่ออุทิศถวาย แด่พระศิวะและเทพเจ้าที่ชาวฮินดู นับถือภายในนั้น มีการเล่าเรื่องราวบนผนังของวิหาร ความน่าสนใจในเชิงสถาปัตยกรรมของวัดแห่งนี้นั้น คือการใช้แนวคิดทางคณิตศาสตร์ในการก่อสร้างและตกแต่งใน

สถานที่ต้องมนต์ขลัง

หรือการใช้รูปทรงเลขาคณิตแบบสมมาตรซ้ำกัน ในขณะที่ต่างกันวัดแห่งนี้ตั้งอยู่ในเขตของฮัมปิบาซ่า ซึ่งภายในมีที่สูงถึง 49 เมตร ตั้งอยู่ท่ามกลางซากปรักหักพัง นักท่องเที่ยวจำนวนมาก เดินทางมาที่นี่เพื่อเข้าร่วมในเทศกาลประจำปี อย่างการเป็นสักขีพยาน ในพิธีหมั้น และพิธีอภิเษกสมรส ของพระเจ้าวิรูปักษา ร่างอวตารของพระศิวะ และพระแม่ปัมปา และเทศกาลรถม้า ในเดือนธันวาคมวิหารแห่งนี้

ยืนหยัดผ่านกาลเวลา และได้พิสูจน์ให้เห็นถึงความรุ่งโรจน์ ที่ยังคงหลงเหลืออยู่ของฮัมปิค่ะ ส่วนอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจในเมืองนี้ก็คือ  Mahanavami Dibba แท่นหินขนาดใหญ่อันสวยงามตั้งอยู่ในเขตพระราชทานในเมืองฮัมปิ เป็นที่รู้จักกันอีกชื่อหนึ่งว่าดาซาร่าดิบบาร์ เป็นโครงสร้างขนาดใหญ่ที่น่าประทับใจสร้างขึ้น โดยพระเจ้ากฤษณะเทวดาในปี 1513 หลังจากการพิชิตอาณาจักรอุทยานคีรี

สถานที่ต้องมนต์ขลัง

ซึ่งปัจจุบันก็คือรัฐโอริสาแท่นหินนี้เปรียบเสมือนอัฒจันทร์ ที่กษัตริย์ใช้เพื่อชมกองทัพทหาร ที่เคลื่อนผ่านการซ้อมรบและขบวนแห่ของราชวงศ์ ที่จัดขึ้นในช่วงเทศกาลมหานวมินทร์ หรือที่รู้จักกันในชื่อเทศกาลทศและยังใช้เพื่อเฉลิมฉลองชัยชนะจึงได้ชื่อว่า The House of Victory

แท่นหินสถาปัตยกรรมตามแบบฉบับวิชัยนครมีความสูงประมาณ 12 เมตรบนฐานสี่เหลี่ยมจัตุรัสมีสามชั้นตกแต่งอย่างวิจิตรงดงามด้วยงานแกะสลักอันวิจิตรงดงาม ภาพแกะสลักที่ส่วนฐานแสดงถึงเรื่องราวในอดีต ได้อย่างประณีต ดูสวยงามสวยงามน่าทึ่ง เป็นอย่างมากเลยค่ะ

✈ ✈ ✈ ✈ ✈ ✈ ✈ ✈ ✈ ✈ ✈ ✈ ✈ ✈ ✈ ✈ ✈ ✈ ✈ ✈ ✈ ✈ ✈ ✈ ✈ ✈✈ ✈✈ ✈ ✈ ✈✈ ✈✈